หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษ
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษผิวโลหะ (Metallic Ink) หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษนี้จะผสมสารเติมแต่งให้หมึกมีคุณสมบัติเงาวาว เมื่อนำไปใช้งานผลที่ได้บนลายสกรีนเสื้อจะมีลักษณะเป็นพื้นผิววาวคล้ายโลหะ
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษส่องประกาย (Glitter,Shimmer,Sparkle Ink) เพื่อให้ได้พื้นผิวลวดลายสกรีนที่มีประกายแสงแวววาวจะมีการผสมผงเงิน ผงทอง หรือที่เรียกกากเพชร (Glitter Flakes) ที่ใช้เฉพาะสำหรับงานสกรีนเสื้อ และโดยมากนิยมผสมกับเนื้อสีเมทาลิก(Metallic Pigment) เพื่อให้ได้ผิวโลหะส่องประกายแววาวระยิบระยับ เช่น ผิวโลหะสีทองเป็นประกาย (Metallic Gold Shimmer), สีม่วงโลหะส่องประกาย (Metallic Purple Sparkle) เป็นต้น นอกจากการผสมผงกากเฟชร(Glitter Flakes) ลงในหมึกพิมพ์สกรีนแล้ว เทคนิคการโรยกากเพชรลงบนลายสกรีน(หลังการสกรีนสีสุดท้าย)โดยอาศัยกาวใสเป็นตัวยึดเกาะบนลวดลายก็เป็นอีกทางเลือกนึง
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษเรืองแสง (Fluorescent and Phosphorescent Inks) หมึกพิมพ์สกรีนประเภทนี้นอกจากนำไปใช้เพิ่มความโดดเด่นให้กับดีไซน์ลวดลายสกรีนบนเสื้อยืดแล้วยังถูกนำไปใช้สำหรับสกรีนบนเสื้อที่ต้องนำไปสวมเวลาปฏิบัติงานเพื่อให้เห็นเด่นชัดในเวลากลางคืน (Glow in the dark) หมึกเรืองแสงจะแบ่งเป็นสองชนิดคือ ชนิด Fluorescent จะให้คุณสมบัติเรืองแสงในที่มืดและแสงสว่างภายใต้หลอดไฟนีออน ส่วนชนิด Phosphorescent (Glow in the dark) ลวดลายที่สกรีนด้วยหมึกพิมพ์ชนิดนี้จะเรืองแสงเฉพาะในที่ความมืดเท่านั้น ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในตอนกลางวันหรือในที่มีแสงสว่างซึ่งการสกรีนด้วยหมึกพิมพ์สกรีนชนิดนี้จะให้ผลดีเมื่อมีการสกรีนรองพื้นด้วยสีขาว สีที่นิยมคือ สีเหลือง เขียว ส้ม ฟ้า
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษผิวนูน (Puff ink) หมึกพิมพ์ชนิดนี้จะให้ผิวสัมผัสพองฟูหนานูนขึ้นมาจากเนื้อผ้าและขอบของลายสกรีนจะมีลักษณะะมนขาดความคม โดยหลังจากสกรีนลงบนเนื้อผ้าแล้วจะให้ผลลัพธ์ของสีที่ถูกต้องและมีการพองฟู ขึ้นมาต่อเมื่อนำไปผ่านเครื่องเป่าหรือเครื่องอบความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะ สม
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษผิวหนัง (Suede Ink) หมึกพิมพ์ชนิดนี้จะเติมสารเติมแต่งที่ก่อให้เกิดผลคล้ายคลึงหมึกพิมพ์สกรีนนูน โดยเนื้อสีจะมีความหนานูนพองฟูขึ้นมาจากเนื้อผ้าเช่นกันแต่ให้ผลน้อยกว่าและ มีผิวสัมผัสด้านคล้ายหนัง สารเติมแต่งของหมึกพิมพ์ชนิดนี้จะมีสีขาวน้ำนมสามารถเติมลงในหมึกพิมพ์สกรีนชนิดพลาสติซอลได้โดยตรง
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษเนื้อหนา (High density Ink) หมึกพิมพ์สกรีนชนิดนี้จะมีความข้นหนืดสูงทำให้มีความหนาแน่นของหมึกมาก เมื่อนำไปสกรีนผลที่ได้ผิวของลวดลายจะถูกยกให้มีความหนาและแน่นขึ้นมาจากเนื้อผ้าเป็นขอบคมชัด(ต่างกับผลที่ได้จากการสกรีนด้วยหมึกพิมพ์สกรีนผิวนูนที่เนื้อสีพองฟูอ่อนนุ่มและขอบของลวดลายมีความมนโค้ง) นิยมนำไปใช้กับงานสกรีนบนเสื้อที่ต้องการเน้นลวดลายที่ให้ผิวสัมผัส 3 มิติและเน้นขอบคมชัด หมึกพิมพ์ชนิดนี้หากไม่ผสมกับเนื้อสี(พิำกเมนต์)จะมีลักษณะเหมือนเจลใส (High density clear gel ink) ซึ่งสามารถนำไปใช้งานสกรีนได้เ่ช่นกันทั้งสกรีนตรงหรือสกรีนทับลวดลายเพื่อให้ได้พื้นผิวที่เป็นชั้นหนาและมีลักษณะคล้ายเจลเปียกเนื้อแน่นความยืดหยุ่นสูง แต่จะมีขอบของลวดลายที่โค้งมนเนื่องจากยังไม่ได้มีการผสมกับเนื้อสี สำหรับการเลือกใช้ผ้าสกรีนและฟิลม์ที่ใช้ในขั้นตอนการยิงฟิลม์เพื่อจะนำไปถ่ายลงบล๊อกจะต้องเลือกใช้ฟิลม์ชนิดหนาพิเศษให้เหมาะสมตามลักษณะของเนื้อสีซึ่งมีความข้นหนืดสูง
หมึกพิมพ์สกรีนชนิดพิเศษสะท้อนแสง (Reflective ink) หมึกพิมพ์ชนิดนี้จะมีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับหมึกพิมพ์พิเศษชนิดเรืองแสงเมื่อนำไปใช้ในงานสกรีนพื้นผิวของลายสกรีนจะสะท้อนแสง
สกรีนเสื้อ แต่ละที่ การใช้สี การสร้างพื้นผิว ทำให้เสื้อยืดของเราดูมีความแตกต่างกัน และมีเอกลักษณ์ของลวดลาย